หลักเกณฑ์การเบิกค่าใช้จ่ายสำหรับนักเรียนทุน

นักเรียนทุนที่ศึกษาในสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ควรศึกษาหลักเกณฑ์การเบิกค่าใช้จ่ายสำหรับนักเรียนทุน (ด้านล่าง) โดยละเอียดก่อนการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้การศึกษาและการดำเนินชีวิตระหว่างศึกษาในต่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด หากมีความไม่ชัดเจนในรายละเอียดประการใด หรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อฝ่ายการเงิน ฯ สนร. อังกฤษ ก่อนการดำเนินการ

ด้วยความปรารถนาดี

สนร.อังกฤษ

นักเรียนทุนสามารถกดลิงค์เพื่อกรอกแบบคำขอด้านการเงินได้ โดยขอให้ศึกษาหลักเกณฑ์การเบิกค่าใช้จ่ายสำหรับนักเรียนทุน (ด้านล่าง) ให้ชัดเจนก่อนแล้วจึงกรอกข้อมูล เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง

นักเรียนทุนสามารถตรวจสอบหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ที่ หลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายนักเรียนทุน (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป)

การทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ในสหราชอาณาจักรหรือสาธารณรัฐไอร์แลนด์ จะต้องเป็นหนังสือเดินทางเล่มที่ 2 เท่านั้น และจะเบิกค่าใช้จ่ายได้ กรณี

1.หนังสือเดินทางเล่มแรกจัดทำไม่เกิน 6 เดือนก่อนวันรับทุนรัฐบาล

     ตัวอย่าง วันรับทุนรัฐบาล วันที่ 1 มิถุนายน 2567 Issue date ของหนังสือเดินทางเล่มแรกไม่ควรเริ่มก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2566

2. หนังสือเดินทางเล่มแรกต้องมีอายุเหลือไม่เกิน 6 เดือน ก่อนทำหนังสือเดินทางเล่มที่ 2

    ตัวอย่าง Expiry date ของหนังสือเดินทางเล่มแรกจะหมดอายุในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568  ดังนั้น หนังสือเดินทางเล่มที่ 2 ต้องจัดทำหลังวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567

3. ค่าธรรมเนียมในการขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ในอัตราค่าธรรมเนียมในการขอทำหนังสือเดินทางที่มีอายุ 5 ปี

สำหรับนักเรียนที่ศึกษานอกกรุงลอนดอนที่จะต้องเดินทางเข้ามากรุงลอนดอนเพื่อทำหนังสือเดินทาง สามารถเบิกค่าพาหนะเดินทางไป-กลับ และค่าที่พักในอัตราประหยัด (จำนวน 1 คืน) ทั้งนี้ อาจพิจารณาสำรองที่พัก ณ หอพัก สนร. ก่อน (20 ปอนด์/คืน/คน) และหากกรณีที่หอพัก สนร. เต็ม สามารถเบิกค่าที่พักเอกชนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน (80 ปอนด์/คืน/คน) (ห้อง Single room และไม่รวมอาหารเช้า)

หมายเหตุ:  หากมีกำหนดการเดินทางไม่ตรงวันที่นัดหมาย กรุณาติดต่อฝ่ายการเงิน สนร. ก่อนดำเนินการใด ๆ

สำหรับนักเรียนทุนที่ศึกษาในสหราชอาณาจักรและยังมีระยะเวลาทุนศึกษาด้วยทุนรัฐบาล สามารถเบิกค่าธรรมเนียมการทำวีซ่า ดังนี้

ค่าใช้จ่ายในการต่ออายุวีซ่านักเรียน

เอกสารแนบประกอบการพิจารณา

1. Immigration Health Surcharge (IHS)

Transaction Confirmation Payment/Bank Statement

2. UK Visas & Immigration Fees (UKV&I)

Transaction Confirmation Payment/Bank Statement

3. Appointment Fee

หนังสือเชิญจาก Home Office และ ใบเสร็จรับเงินตัวจริง

 

สำเนาเอกสารแสดงสถานะ Immigration status ที่ระบุระยะเวลาของวีซ่า (แนบสำเนาทั้งเก่าและใหม่ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)

 กรอกแบบฟอร์ม (แบบคำร้องขอเบิกค่าธรรมเนียมในการต่ออายุวีซ่า) พร้อมแนบเอกสารทั้งหมดข้างต้น แล้วจัดส่งให้ สนร. ทางอีเมล  เมื่อ สนร. ได้รับเอกสารดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการโอนเงินค่าธรรมเนียมในการต่ออายุวีซ่าฯ เข้าบัญชีธนาคารให้ต่อไป

หมายเหตุ:

1. นักเรียนที่ดำเนินการต่ออายุวีซ่าที่ประเทศไทยจะเบิกค่าธรรมเนียมการต่ออายุวีซ่าได้ในอัตราประหยัด (Standard) เท่านั้น  

2. สนร. จะดำเนินการจ่ายเงินให้แก่นักเรียน เมื่อ สนร. ได้รับเอกสารประกอบคำขอเบิกจ่ายครบถ้วนแล้วเท่านั้น

 สำหรับนักเรียนทุน ที่ได้รับอนุมัติให้เปลี่ยนระดับการศึกษา สามารถเบิกค่าระวางขนส่งสิ่งของระหว่างเมืองเหมาจ่ายจำนวน 200 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ และค่าพาหนะเดินทางระหว่างเมืองโดยรถไฟ/รถประจำทาง ตามที่จ่ายจริงโดยประหยัด โดยกรอกแบบฟอร์ม (แบบคำขอเบิกค่าใช้จ่ายกรณีเปลี่ยนระดับการศึกษาและย้ายเมืองที่ศึกษา) และส่งเอกสารประกอบการเบิกจ่ายตามรายะเอียดด้านล่างนี้ ให้ สนร. ทางอีเมล

เอกสารประกอบการพิจารณา

  • สําเนาเอกสารที่ สนร. แจ้งอนุมัติให้เปลี่ยนระดับการศึกษา
  • ไฟล์สแกน Physical ticket (PDF) หรือ ไฟล์ E-ticket (PDF)
  • ใบเสร็จรับเงิน ที่ระบุรายละเอียดการเดินทางและค่าเดินทาง
  • Bank Statement ที่มีรายละเอียดชื่อ นามสกุล เลขบัญชีของเจ้าของบัญชี และรายการจ่ายครบถ้วน

หมายเหตุ:

1. กรณีสถานศึกษาเดิม และ สถานศึกษาใหม่ ตั้งอยู่ในเมืองเดียวกัน ไม่สามารถเบิกค่าระวางและค่าเดินทางในการย้ายเมืองที่ศึกษาได้

2. การเบิกค่าเดินทาง ต้องเป็นเส้นทางตรงจากเมืองที่สถานศึกษาเดิมตั้งอยู่ ไปเมืองที่สถานศึกษาใหม่ตั้งอยู่ ต้องไม่มีการออกนอกเส้นทาง หรือพักค้างคืนนอกเส้นทาง

3. ผู้เดินทางโดยรถรับจ้างส่วนบุคคล รถเช่าหรือรถยนต์ส่วนตัว ไม่มีสิทธิเบิกค่ารับจ้าง/เช่ารถหรือค่าน้ำมัน

4. ค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือจากค่าตั๋วโดยสาร ไม่สามารถเบิกจ่ายได้

  • ค่าถอนฟัน อุดฟัน รักษารากฟัน ค่าทำความสะอาดฟัน (เฉพาะการรักษา) จ่ายให้ครึ่งหนึ่งของอัตรา NHS dental charge bands ค่าทำความสะอาดฟัน นอกเหนือการรักษา เบิกจ่ายได้ครึ่งหนึ่งตามที่จ่ายไป ปีละ 1 ครั้ง (ปีงบประมาณ เดือนตุลาคม – เดือนกันยายน)
  • ค่าครอบฟันและใส่ฟันเทียม ไม่สามารถเบิกจ่ายได้
  • กรณี ใช้บริการของ Private dentist จะเบิกจ่ายได้ครึ่งหนึ่ง ของอัตรา NHS dental charge bands
  • การทำฟันในประเทศไทยเบิกจ่ายได้ตามระเบียบกระทรวงการคลัง เฉพาะที่เข้าทำฟันในสถานพยาบาลของรัฐเท่านั้น

นักเรียนทุนสามารถตรวจสอบอัตราค่าบริการทันตกรรมได้ที่ NHS Dental Charges

นักเรียนทุนจะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือนในอัตราประเทศที่ศึกษา ไม่เกิน 90 วัน ต่อปีปฏิทิน (1 ม.ค.–31 ธ.ค.) โดยนับระยะเวลาทุกครั้งรวมกัน

ตัวอย่าง 1 นักเรียนทุนแจ้งกำหนดกลับประเทศไทยชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน – 26 กันยายน = 99 วัน นักเรียนทุน จะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือนตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน – 17 กันยายน (90 วัน) เท่านั้น และเมื่อส่งหลักฐานการรายงานตัวกลับเข้าประเทศที่ศึกษา จึงจะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือนเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 27 – 30 กันยายน (ตามงวดการโอนเงิน)

ตัวอย่าง 2  นักเรียนทุนแจ้งกำหนดกลับประเทศไทยชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม – 31 พฤษภาคม = 87 วัน นักเรียนทุนจะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือน 90 วัน ถึงวันที่ 3 มิถุนายน ก่อน เมื่อส่งหลักฐานการรายงานตัวกลับเข้าประเทศที่ศึกษา จึงจะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือนเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 4 – 30 มิถุนายน (ตามงวดการโอนเงิน)

ตัวอย่าง 3  นักเรียนทุนแจ้งกำหนดการไปทัศนศึกษานอกประเทศที่ศึกษา 1-5 มีนาคม = 5 วัน  และเดินทางกลับประเทศไทยชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม – 31 พฤษภาคม = 87 วัน รวมการเดินทางในคราวเดียวกัน = 92 วัน นักเรียนทุนจะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือน 90 วัน ถึงวันที่ 29 พฤษภาคม (90 วัน) เท่านั้น  และเมื่อส่งหลักฐานการรายงานตัวกลับเข้าประเทศที่ศึกษา จึงจะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือนเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายน (ตามงวดการโอนเงิน)

หากกำหนดการเดินทางเป็นการเดินทางคร่อมปีปฏิทิน จะถือนับวันเดินทางทั้งหมดเป็นระยะเวลาเดินทางของปีเก่า และหากพำนักอยู่นอกประเทศศึกษาเกินกว่า 90 วัน จะไม่ได้รับค่าใช้จ่ายใดๆ ในฐานะนักเรียนทุนรัฐบาล และจะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือนอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงประเทศที่ศึกษา ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้วต้องรายงานตัวที่สำนักงาน ก.พ. ในโอกาสแรกที่จะกระทำได้ทางอีเมล

นักเรียนทุนต้องรับผิดชอบค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องการเดินทางเอง โดยนักเรียนทุนจะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือนในอัตราประเทศที่ศึกษา ไม่เกิน 180 วัน ตลอดระยะเวลาหลักสูตร ส่วนที่เกิน 180 วัน จะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือนในอัตราของประเทศที่เดินทางไปเก็บข้อมูล

ทั้งนี้ สนร.จะโอนเงินค่าใช้จ่ายประจำเดือนให้ตามจำนวนวันที่ได้รับอนุมัติให้เดินทางไปเก็บข้อมูลวิทยานิพนธ์ก่อน และเมื่อรายงานตัวกลับเข้าประเทศที่ศึกษาแล้ว จึงจะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือนในส่วนที่เหลือเพิ่มเติม

หลักเกณฑ์การเบิกค่าสอบ IELTS สำหรับนักเรียนทุนระดับ A-Level และ Foundation นักเรียนทุนมีสิทธิเบิกค่าสอบได้ 2 ครั้ง แต่ถ้าการสอบครั้งล่าสุดได้คะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 6.5 ขึ้นไปแล้ว จะไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้

เว้นแต่ใน กรณีที่ 1) ได้คะแนนรวมครั้งแรกที่ 6.5 แล้ว แต่เนื่องจากผลสอบครั้งแรกก่อนเดินทาง ได้หมดอายุลง จึงมีความจำเป็นต้องสอบอีกครั้งเพื่อใช้ในการสมัครเรียนปริญญาตรีและขอวีซ่า หรือ

กรณีที่ 2) สถานศึกษามีเงื่อนไขการตอบรับเข้าศึกษากำหนดผลคะแนน IELTS มากกว่า 6.5 ขึ้นไป และนักเรียนทุนจะเบิกค่าใช้จ่ายได้เมื่อได้รับการตอบรับเข้าศึกษาในสถานศึกษานั้น กรณีดังกล่าวจะพิจารณาให้เบิกจ่ายได้ 1 ครั้งเท่านั้น

(*หมายเหตุ: ไม่ใช้บังคับกับ นทร. ที่รับค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่าย ซึ่งจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วยตนเอง)

การจองตั๋วโดยสารเครื่องบินกรณีเดินทางกลับประเทศไทยถาวรหลังเสร็จสิ้นหรือยุติการศึกษา นทร. จะต้องเดินทางออกจากสนามบินในเมืองที่ศึกษาหรือเมืองใกล้เคียงเท่านั้น ยกเว้น นทร. ที่ศึกษานอกกรุงลอนดอนแต่ประสงค์จะเดินทางออกจากสนามบินในกรุงลอนดอน ก็สามารถกระทำได้ ทั้งนี้ สามารถเลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 กรณี ดังนี้

1. กรณี นทร. มีความประสงค์ให้ สนร. ดำเนินการจองตั๋ว (โดยสายการบินไทยซึ่งออกเดินทางจากสนามบิน Heathrow เท่านั้น)

ให้ นทร. กรอก แบบคำขอจองตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางกลับประเทศไทยถาวร ไม่น้อยกว่า 30 วันล่วงหน้า ก่อนวันเดินทางกลับประเทศไทยถาวร หรือโดยเร็วที่สุดเมื่อทราบวันเดินทางกลับแล้ว ในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นไม่อาจดำเนินการก่อน 30 วันล่วงหน้าได้ นทร. จะต้องติดต่อฝ่ายการศึกษา เพื่อจะได้ร่วมกันกำหนดวันเดินทางที่เหมาะสมต่อไป

เมื่อ สนร. ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะจัดส่ง itinerary ให้ นทร. ทางอีเมล เพื่อให้ตรวจสอบรายละเอียด ได้แก่ ชื่อ-สกุล วัน-เวลาเดินทาง และเที่ยวบิน จากนั้นเมื่อ สนร. ได้รับแจ้งยืนยันการตรวจสอบรายละเอียดที่ถูกต้องแล้ว จะจัดส่ง E-ticket ให้ทางอีเมลของ นทร. ต่อไป

2. กรณี นทร. มีความประสงค์จะดำเนินการจองตั๋วด้วยตนเอง

นทร. จะต้องจองตั๋วชั้นประหยัดเท่านั้น และดำเนินการไม่น้อยกว่า 30 วันล่วงหน้าก่อนวันเดินทางกลับประเทศไทยถาวร หรือโดยเร็วที่สุดเมื่อทราบวันเดินทางกลับแล้ว โดย นทร. จะต้องติดต่อฝ่ายการเงินเพื่อขอทราบราคาตั๋วที่ใช้เป็นอัตราอ้างอิงเสียก่อน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้

     2.1 กรณีเดินทางจากสนามบินในกรุงลอนดอน

     นทร. จะต้องติดต่อฝ่ายเงินเพื่อขอทราบราคาตั๋วการบินไทยก่อนดำเนินการจองตั๋วด้วยตนเอง โดย สนร. จะสอบถามราคาค่าตั๋วโดยตรงจากบริษัทการบินไทยฯ (ไม่ใช่จากเว็บไซต์) เพื่อใช้เป็นอัตราอ้างอิงในการเบิกจ่ายต่อไป โดยมีรายละเอียด ดังนี้

          2.1.1 เดินทางโดยสายการบินไทยจากสนามบิน Heathrow แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

                     (1) กรณีค่าตั๋วเครื่องบินที่ นทร. ได้ชำระไป มีราคาสูงกว่าอัตราอ้างอิง นทร. จะสามารถเบิกได้เท่ากับอัตราอ้างอิง

                  (2) กรณีค่าตั๋วเครื่องบินที่ นทร. ได้ชำระไป มีราคาต่ำกว่าหรือเท่ากับอัตราอ้างอิง นทร. จะสามารถเบิกได้เท่ากับราคาค่าตั๋วของตนเองเท่านั้น

          2.1.2 เดินทางโดยสายการบินอื่นจากสนามบินในกรุงลอนดอน (London Airports) แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

                   (1) กรณีค่าตั๋วเครื่องบินที่ นทร. ได้ชำระไป มีราคาสูงกว่า ร้อยละ 75 ของอัตราอ้างอิง นทร. จะสามารถเบิกได้ ร้อยละ 75 ของอัตราอ้างอิง

                   (2) กรณีค่าตั๋วเครื่องบินที่ นทร. ได้ชำระไป มีราคาต่ำกว่าหรือเท่ากับ ร้อยละ 75 ของอัตราอ้างอิง นทร. จะสามารถเบิกได้เท่ากับราคาค่าตั๋วของตนเองเท่านั้น

     ทั้งนี้ เมื่อ นทร. ได้ดำเนินการจองตั๋วและชำระเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ดำเนินการตามข้อ 11 ต่อไป

อย่างไรก็ดี หาก นทร. ดำเนินการจองตั๋วไป โดยไม่ได้ติดต่อฝ่ายการเงินเพื่อขอทราบอัตราอ้างอิงเสียก่อน สนร. จะใช้ราคาตั๋วการบินไทยที่ สนร. ได้จองให้กับ นทร. รายอื่นที่เดินทางในวันเดียวกันเป็นอัตราอ้างอิง หากในวันดังกล่าว มีราคาตั๋วการบินไทยมากกว่า 1 อัตรา สนร. จะใช้ราคาต่ำสุดเป็นอัตราอ้างอิง แต่หากไม่มีการเดินทางของ นทร. รายอื่นในวันเดียวกัน สนร. จะใช้ราคาที่สอบถามจากบริษัทการบินไทยฯ (ราคาย้อนหลังในอัตราต่ำสุด ณ วันที่ นทร. เดินทาง) เป็นอัตราอ้างอิง

     2.2 กรณีเดินทางจากสนามบินในเมืองที่ศึกษาหรือเมืองใกล้เคียง

สามารถเบิกจ่ายได้ตามที่จ่ายจริงในราคาตั๋วอัตราต่ำสุดในจำนวน 3 สายการบิน  โดย สนร. จะนำราคาเที่ยวบินของสายการบินที่ นทร. ประสงค์จะเดินทาง ไปเปรียบเทียบกับราคาตั๋วชั้นประหยัดของอีก 2 สายการบินในเส้นทางและวันเดินทางเดียวกัน โดยเป็นตั๋วที่มีการเปลี่ยนเครื่อง (Transit) ไม่เกิน 1 ครั้ง และเป็นเที่ยวบินที่ถึงประเทศไทยในวันถัดไปนับจากวันที่ นทร. ออกเดินทางจากประเทศที่ศึกษา ทั้งนี้ สนร. จะใช้ราคาต่ำสุดเป็นอัตราอ้างอิงในการเบิกจ่าย และ นทร. จะต้องดำเนินการจองตั๋วเครื่องบินในวันเดียวกันกับวันที่ได้รับแจ้งอัตราอ้างอิงจาก สนร. แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

          2.2.1 กรณีค่าตั๋วเครื่องบินที่ นทร. ได้ชำระไป มีราคาสูงกว่าอัตราอ้างอิง นทร. จะสามารถเบิกได้เท่ากับอัตราอ้างอิง

          2.2.2 กรณีค่าตั๋วเครื่องบินที่ นทร. ได้ชำระไป มีราคาต่ำกว่าหรือเท่ากับอัตราอ้างอิง นทร. จะสามารถเบิกได้เท่ากับราคาค่าตั๋วของตนเองเท่านั้น

ทั้งนี้ หาก นทร. ดำเนินการจองตั๋วไป โดยไม่ได้ติดต่อฝ่ายการเงินเพื่อขอทราบอัตราอ้างอิงเสียก่อน สนร. จะเปรียบเทียบข้อมูลจากเว็บไซต์ของสายการบิน จำนวน 3 สายการบิน (รวมถึงสายการบินที่ นทร. เดินทาง) ที่ให้บริการในเส้นทางเดียวกัน ซึ่งเป็นราคาตั๋วในวันถัดไป 15 วันนับจากวันที่ สนร. ได้รับเอกสารขอเบิกจากนักเรียนครบถ้วนแล้ว หรือราคาตั๋วในวันเดินทางเดียวกันในปีถัดไป แล้วแต่กรณี โดยจะใช้ราคาต่ำที่สุดเป็นอัตราอ้างอิง

หมายเหตุ  กรณีที่ นทร. ประสงค์จะเปลี่ยนแปลงตั๋วหลังจากที่ได้รับ E-ticket แล้ว เช่น เปลี่ยนเที่ยวบิน แก้ไขชื่อ นามสกุล นทร. จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกรายการที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง

(*หมายเหตุ: นทร. ที่ศึกษาอยู่ในเมืองเดียวกันกับเมืองที่ตั้งของสนามบิน ยกตัวอย่างเช่น นทร. ศึกษาอยู่ ณ กรุงลอนดอน และเดินทางกลับจากสนามบินในกรุงลอนดอน (London Airports) หรือ นทร. ศึกษาอยู่ ณ เมือง Manchester และเดินทางกลับจาก Manchester Airport เป็นต้น จะไม่สามารถเบิกค่าพาหนะได้)

นทร. จะต้องดำเนินการจองตั๋วค่าพาหนะเดินทางจากเมืองที่ศึกษาถึงสนามบินที่ใช้ในการเดินทางกลับประเทศไทยถาวรโดยเร็วที่สุดเมื่อทราบวันเดินทางกลับแล้ว โดยสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ตามที่จ่ายจริงในอัตราประหยัด โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังนี้

     1. วันที่เดินทางออกจากเมืองที่ศึกษาจะต้องเป็นวันเดียวกันกับวันที่เดินทางกลับประเทศไทย โดยไม่มีการแวะพักหรือเดินทางออกนอกเส้นทาง

     2. หากเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง (Coach) หรือรถไฟ จะสามารถเบิกจ่ายได้ในชั้นประหยัด (Standard class) เท่านั้น

     3. ในการจองตั๋วเดินทางโดยสารประจำทาง (Coach) หรือรถไฟ หากเดินทางจากเมืองที่ศึกษาไปถึงสนามบิน ให้เลือกสถานีปลายทางเป็น ชื่อของสนามบินที่จะเดินทางกลับประเทศไทย

หากเดินทางกลับจากสนามบินในกรุงลอนดอน (ยกเว้น Heathrow) ให้จองตั๋วโดยเลือกสถานีปลายทางเป็น ชื่อของสนามบินที่จะเดินทางกลับประเทศไทย

หากเดินทางกลับจากสนามบิน Heathrow ให้เลือกสถานีปลายทางเป็น “Heathrow Underground” เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถไฟ “Heathrow Express” ซึ่งไม่สามารถเบิกจ่ายได้

     4. หากเดินทางโดยเครื่องบิน นทร. จะต้องเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินกับราคาตั๋วรถไฟชั้นประหยัดในวันที่เดินทางจริง ล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วันก่อนวันเดินทาง หรือโดยเร็วที่สุดเมื่อทราบวันเดินทางกลับแล้ว โดยราคาตั๋วรถไฟที่นำมาเปรียบเทียบจะต้องมีเงื่อนไข ดังนี้

          4.1 เป็นราคาในวันเดียวกันและช่วงเวลาถึงสนามบินในกรุงลอนดอนที่ใกล้เคียงกันกับวันและช่วงเวลาที่ปรากฏบนตั๋วเครื่องบินที่นำมาเบิกกับ สนร. และ

          4.2 เป็นราคาในวันเดียวกันกับวันที่ดำเนินการจองและชำระตั๋วเครื่องบิน

          ทั้งนี้ จะสามารถเบิกค่าตั๋วเครื่องบินได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินราคาของตั๋วรถไฟที่นำมาเปรียบเทียบ

          หาก นทร. ดำเนินการจองตั๋วเครื่องบินไป โดยไม่เปรียบเทียบราคาก่อน แล้วนำใบเสร็จตั๋วที่ได้จองไปแล้วมาขอเบิกในภายหลัง สนร. จะดำเนินการเปรียบเทียบราคาเพื่อใช้เป็นอัตราอ้างอิงในการเบิกจ่ายต่อไป

     5. หากมีการเดินทางออกนอกเส้นทางจากเมืองที่ศึกษาไปยังสนามบินที่จะเดินทางกลับประเทศไทย นทร. จะไม่สามารถนำใบเสร็จมาเบิกกับ สนร. ได้

    6. หากการเดินทางจากเมืองที่ศึกษาถึงสนามบินที่จะเดินทางกลับประเทศไทยใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมง ให้ติดต่อฝ่ายการเงินก่อนการจองตั๋ว เพื่อวางแผนการเดินทางที่เหมาะสมต่อไป

     7. ค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้ นทร. จะไม่สามารถเบิกได้

  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากค่าตั๋วเดินทาง เช่น ค่า Booking fee ค่าจองที่นั่ง ค่าซื้อน้ำหนักกระเป๋า ค่าประกัน เป็นต้น
  • ค่าโดยสารรถรับจ้างส่วนบุคคล (แท็กซี่ หรือบริการเทียบเคียง เช่น Uber)

  • ค่าเช่ารถเช่าหรือรถยนต์ส่วนตัว เช่น ค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน เป็นต้น

หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าเดินทางกลับประเทศไทยถาวร (กรณีดำเนินการแจ้งเสร็จสิ้นการศึกษา/ยุติการศึกษา กับ ฝ่ายการศึกษาเรียบร้อยแล้ว) แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

1. กรณีที่ สนร. ดำเนินการจองตั๋วโดยสารเครื่องบินให้

 นทร. จะได้รับค่าระวางขนส่งสิ่งของเหมาจ่ายในอัตราปอนด์เทียบเท่ากับจำนวน 450 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โดยจะต้องยื่นเอกสารดังต่อไปนี้เพื่อประกอบการเบิกจ่าย

ขอเบิกค่าระวางขนส่งสิ่งของเหมาจ่าย

ขอเบิกค่าพาหนะเดินทางระหว่างเมืองที่ศึกษาถึงเมืองที่ตั้งของสนามบิน

  • ไฟล์สแกน Physical ticket (PDF) หรือ ไฟล์ E-ticket (PDF) รถไฟ รถประจำทาง ในชั้นประหยัด (Standard class)
  • Email booking confirmation ของการเดินทาง หรือ ใบเสร็จรับเงิน ที่ระบุรายละเอียดการเดินทางและค่าเดินทาง
  • Bank statement (หลักฐานการชำระเงิน) ที่มีรายละเอียดชื่อ นามสกุล เลขบัญชีของเจ้าของบัญชี และรายการจ่ายค่ารถไฟ รถประจำทาง ครบถ้วน

2. กรณีที่ นทร. ดำเนินการจองตั๋วโดยสารด้วยตนเอง

นทร. จะได้รับค่าระวางขนส่งสิ่งของเหมาจ่ายในอัตราปอนด์เทียบเท่ากับจำนวน 450 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โดยจะต้องยื่นเอกสารดังต่อไปนี้เพื่อประกอบการเบิกจ่าย

ขอเบิกค่าระวางขนส่งสิ่งของเหมาจ่าย

ขอเบิกค่าตั๋วโดยสาร

  • E-ticket ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินที่จองจริง
  • ข้อมูลเปรียบเทียบราคาตั๋วฯ ณ วันที่ดำเนินการจองตั๋วฯ 3 สายการบิน 30 วันก่อนวันเดินทางกลับประเทศไทย ในเส้นทางและวันเดินทางเดียวกัน (กรณีเดินทางโดยสายการบินอื่น และเดินทางจากสนามบินในเมืองที่ศึกษา หรือเมืองใกล้เคียง)
  • ใบเสร็จการชำระเงิน ที่ระบุรายละเอียดการเดินทางและค่าเดินทาง
  • Bank statement (หลักฐานการชำระเงิน) ที่มีรายละเอียดชื่อ นามสกุล เลขบัญชีของเจ้าของบัญชี และรายการจ่ายค่าตั๋วโดยสาร ครบถ้วน

ขอเบิกค่าพาหนะเดินทางระหว่างเมืองที่ศึกษาถึงเมืองที่ตั้งของสนามบิน

  • ไฟล์สแกน Physical ticket (PDF) หรือ ไฟล์ E-ticket (PDF) รถไฟ รถประจำทาง ในชั้นประหยัด (Standard class)
  • Email booking confirmation ของการเดินทาง หรือ ใบเสร็จการชำระเงิน ที่ระบุรายละเอียดการเดินทางและค่าเดินทาง
  • Bank statement (หลักฐานการชำระเงิน) ที่มีรายละเอียดชื่อ นามสกุล เลขบัญชีของเจ้าของบัญชี และรายการจ่ายค่ารถไฟ ครบถ้วน

สนร. จะดำเนินการจ่ายเงินค่าระวางขนสิ่งของเหมาจ่ายจำนวน 450 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้นักเรียนเมื่อได้รับแบบคำขอเบิกเงินค่าใช้จ่ายหลังสำเร็จ/เสร็จสิ้น/ยุติการศึกษาและเอกสารประกอบการพิจารณาครบถ้วน และตรงตามหลักเกณฑ์ฯ เท่านั้น

สำหรับนักเรียนทุนที่ประสงค์ขอฝึกงาน เมื่อได้รับอนุมัติให้ฝึกงานจาก สนร. แล้ว สามารถดำเนินการเบิกค่าใช้จ่ายได้ ดังนี้

กรณีเป็นข้อบังคับของหลักสูตร

  1. ค่าพาหนะเดินทางไป-กลับ จากเมืองที่ศึกษา ถึงเมืองที่ตั้งของสถานที่ฝึกงานที่อยู่ต่างเมือง/รัฐ ในประเทศที่ศึกษาหรือนอกประเทศที่ศึกษา
  2. ค่าใช้จ่ายประจำเดือน จะได้รับในอัตราเมือง/รัฐ ของสถานที่ฝึกงานในประเทศที่ศึกษาหรือนอกประเทศที่ศึกษา
  3. เงินช่วยเหลือค่าที่พัก (สำหรับค่าที่พักในเมืองที่ศึกษาระหว่างที่ต้องไปฝึกงานต่างเมือง) สามารถเบิกจ่ายแบบเหมาจ่ายได้ในอัตราร้อยละ 40 ของอัตราค่าใช้จ่ายประจำเดือนตามอัตราเมืองที่ศึกษา

หมายเหตุ  (ข้อ 1. เบิกจ่ายหลังจากฝึกงานเสร็จสิ้น สำหรับข้อ 2. และ ข้อ 3. จ่ายตามรอบการโอนเงินค่าใช้จ่ายประจำเดือน)

กรณีไม่เป็นข้อบังคับของหลักสูตร

นักเรียนทุนจะได้รับค่าใช้จ่ายประจำเดือนในอัตราเมือง/รัฐ ของสถานที่ฝึกงาน ในประเทศที่ศึกษาหรือนอกประเทศที่ศึกษา และจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ เอง

หมายเหตุ  สำหรับการเบิกค่าใช้จ่ายกรณีฝึกงานในประเทศไทย ขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ สนร. เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก่อนดำเนินการ

หมายเหตุ:

ค่าใช้จ่ายตามสิทธิ กำหนดการเบิกค่าใช้จ่าย ให้เบิกจ่ายได้ภายใน 1 ปี นับจากวันออกใบเสร็จหรือสำรองจ่าย หรือวันที่สำเร็จการศึกษา (กรณีเป็นรายการที่ไม่มีใบเสร็จรับเงิน) หรือวันที่มีมติให้ยุติการศึกษา หรือ วันสิ้นสุดการรับทุนรัฐบาล

Updated March 21, 2025